ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) เป็นอีกธุรกิจที่เจ้าของกิจการ (franchisor) ตกลงให้บุคคลอื่นประกอบธุรกิจโดยใช้รูปแบบระบบ แล้วก็ขั้นตอนดำเนินกิจการจากจากเจ้าของกิจการ เป็นต้นแบบวิธีการทำธุรกิจที่ช่วยทำให้คนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยผู้ขอสิทธิสำหรับการทำธุรกิจจากผู้ครอบครองแบรนด์ลงทุนชำระเงินให้กับผู้ครอบครองรวมทั้งรับสิทธิสำหรับเพื่อการประกอบธุรกิจต่อไป
ปัจจุบันนี้เจ้าของกิจการคนขายแฟรนไชส์ มีการจัดเตรียมเครื่องใช้ไม้สอย วัตถุดิบ รวมถึงให้คำปรึกษาสำหรับการเริ่มธุรกิจแก่นักลงทุน (franchisee) ให้พร้อม สร้างช่องทางสำหรับเพื่อการเป็นเจ้าของธุรกิจแก่ผู้ต้องการลงทุนได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น แล้วยิ่งในปี 2565 ด้วยแล้ว การเริ่มต้นแฟรนไชส์ยิ่งง่ายดายมากยิ่งขึ้นไปอีก แถมลงทุนน้อย เนื่องจากพวกเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีหน้าร้านค้า จ่ายค่าทำเลที่ตั้ง หรือว่าจ้างบุคลากรมาดูแลมากไม่น้อยเลยทีเดียว ก็สามารถขายผ่านบริการ Food Delivery ได้ไม่ยากซึ่งได้โอกาสเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากได้อีกด้วย
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หากคุณสนใจที่จะลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์ อย่าพลาดที่จะติดต่อกับ 10 แฟรนไชส์แนะนำที่จะทำให้คุณสามารถสร้างรายได้เสริม หรือจะเพิ่มไปเป็นธุรกิจหลักให้คุณก็เป็นได้
เริ่มต้นสร้างอาชีพง่ายๆ ลงทุนน้อยๆ ก็ยำนี่แหละ รายได้ดีงาม!!!
เราสอนอะไรบ้าง?
พร้อมทำขายได้เลย สำคัญที่สุด เราได้คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้คุณแล้ว "ทำง่าย ขายคล่อง ลงทุนน้อย กำไรดีมาก" ว้าววววว..สุด
ย้ำ ลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชน์ต้องมาเรียนสูตรกับ เราก่อนขาย อยากเปิดร้านยำไม่ยาก มีทุนน้อยไม่ใช่ปัญหาปรึกษาเราได้ค่ะ สำหรับผู้ที่ซื้อ แฟรนไชน์โอลี่ยำไป สามารถเลื่อนขั้นเปิดเป็นร้านได้ค่ะ (โดยมีทีมงานออกแบบร้านให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย) การจองไม่ยุ่งยาก เพียงคุณมีสถานที่ทำ และเงินมัดจำ 14500฿ ก็สามารถจองแฟรนไชน์กับ โอลี่ยำได้เลย ค่ะ
“ฟู้ดแพชชั่น” สานต่อความเชื่อและยกระดับพันธกิจองค์กร จากการสร้างความสุขผ่านมื้ออาหาร สู่การสร้างอาชีพและรายได้ให้คนไทย
โดยปั้นแฟรนไชส์ช่วยคนไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19 ภายใต้ชื่อแบรนด์ “หมูทอดกอดคอ” ชูจุดเด่น แฟรนไชส์โมเดลแนวใหม่ กอดคอเคียงข้างผู้ซื้อแฟรนไชส์สู่ความสำเร็จ ด้วยแนวคิด “เพราะชีวิตไม่เคยหมู กอดคอสู้ไปด้วยกัน”
โดยมีโมเดลแฟรนไชส์หมูทอดกอดคอให้เลือกทั้งสิ้น 3 รูปแบบ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งฟู้ดแพชชั่นได้ทำการศึกษาและวางแผนธุรกิจอย่างละเอียด ในการออกแบบชุดโมเดลต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความเหมาะสมของพื้นที่ตั้งในแบบต่าง ๆ ที่หลากหลาย
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำการทดสอบธุรกิจในโมเดลต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้และปรับรูปแบบจนได้โมเดลที่เหมาะสมทั้ง 3 แบบ ที่ตอบโจทย์ความต้องการกับผู้ซื้อแฟรนไชส์ เหมาะสมกับพื้นที่ตั้งร้าน และมาพร้อมชุดอุปกรณ์การขายและวัตถุดิบตั้งต้นมากมายพร้อมเปิดร้านได้ทันที ได้แก่
โมเดลที่หนึ่ง (A) ชุดสร้างอาชีพ ในราคา 11,900 บาท ซึ่งเป็นการให้ข้อเสนอพิเศษในช่วงเริ่มต้น จากราคาเต็ม 14,305 บาท เหมาะสำหรับพื้นที่ในร่ม
โมเดลที่สอง (B) ชุดสร้างฐานะราคา 32,900 บาท จากราคาเต็ม 36,720 บาท เหมาะสำหรับทุกพื้นที่ เคลื่อนย้ายได้ มีช่องเก็บของ แถมรับฟรี วัตถุดิบ พร้อมเปิดร้าน ส่งฟรี ถึงที่ตั้ง
โมเดลที่สาม (C) ชุดสร้างรายได้ ราคา 59,900 บาท จากราคาเต็ม 64,380 บาท เหมาะสำหรับการตั้งประจำ แข็งแรงและปลอดภัย แถมรับฟรี วัตถุดิบ พร้อมเปิดร้าน ส่งฟรี ถึงที่ตั้ง
ช่องทางการติดต่อ : @MooTodGordKor หรือคลิ๊ก https://lin.ee/4lVMbu4fb
อยากทานก๋วยเตี๋ยวเรือร้อน ๆ แบบจัดหนักจัดเต็ม เรียงกันเป็นตับ !! ชามต่อชาม แต่สรรหาร้านที่อร่อย ๆ น้ำซุปเข้มข้นกลมกล่อม อร่อยได้โดยไม่ต้องปรุงนั้น.. ใช่ว่าจะหาร้านแบบนั้นได้ง่าย ๆ
แต่ก็ใช่ว่า จะไม่มี.. ถ้าได้มารู้จักกับ “ก๋วยเตี๋ยวเรือ ท่าปราการ” ก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรโบราณ รสชาติเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับสโลแกน “ไม่ต้องปรุง..ก็อร่อย” ที่ ‘เถ้าแก่คาเฟ่’ ขอเชิญชวนเหล่าบรรดาคนชอบกินเส้นให้ได้ลองไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง รับรองรสชาติถูกปาก ราคาถูกใจ
อีกทั้ง ปัจจุบัน “ก๋วยเตี๋ยวเรือ ท่าปราการ” เปิดขายแฟรนไชส์สำหรับนักลงทุนหรือคนที่สนใจอยากเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวที่รสชาติอร่อยแตกต่างเป็นของตัวเอง ด้วยงบลงทุนเริ่มต้นแค่หลักหมื่น !! เท่านั้น
สำหรับแฟรนไชส์ “ก๋วยเตี๋ยวเรือ ท่าปราการ” มีเซตการลงทุน 3 แพ็กเกจหลัก โดยผู้ลงทุน หรือ แฟรนไชส์ซี จะได้รับอุปกรณ์+วัตถุดิบ และสิทธิประโยชน์ ดังนี้
ช่องทางการติดต่อ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100083015844764
“ขนมบ้าบิ่น” ขนมทานเล่นของไทย อีกหนึ่งขนมที่เป็น ซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) เป็นเอกลักษณ์คุ้นหน้าคุ้นตาคุ้นปากคนไทยมาอย่างยาวนาน กับรสชาติแป้งนุ่ม ๆ ไส้มะพร้าวอ่อนหอมหวานกลมกล่อม อร่อยฟินทุกคำ ทานได้ที่ทุกเวลาทุกเพศทุกวัย
ปัจจุบัน ขนมบ้าบิ่น ได้รับการปรับปรุงปรับเปลี่ยนรสชาติและหน้าตาให้ดูน่ากินและร่วมสมัยตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ขนมบ้าบิ่นบ้านแม่มด บราวนี่แม่มด ขนมบ้าบิ่นเจ้าดังอยุธยา
ขนมบ้าบิ่นบ้านแม่มด บราวนี่แม่มด ขนมบ้าบิ่นเจ้าดังอยุธยา เป็นร้านจำหน่ายขนมบ้าบิ่น แบรนด์ดัง จากเมืองกรุงเก่าส่งเข้าประกวด โดยลูกค้าต่อคิวมุงซื้อกันอย่างเนืองแน่น ซึ่งหากเพื่อน ๆ ได้เดินทางแวะเวียนมาตะลอนกินตะลอนเที่ยว และเดินเล่นในศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค (AYUTTHAYA CITY PARK) บริเวณชั้น 1 ก็จะพบเห็นบรรยากาศดังกล่าว
ราคาแฟรนไชส์ : 15,000 บาท
ช่องทางการติดต่อ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100064009394061
“ไก่หมุนละมุนลิ้น” แฟรนไชส์น้องใหม่มาแรง !! ไก่นุ่มเนื้อฉ่ำ ๆ หอมมาแต่ไกล.. ธุรกิจแฟรนไชส์ไก่ย่างที่มีสไตล์และความอร่อยในแบบฉบับของตัวเอง และเป็นแฟรนไชส์สร้างอาชีพ น่าลงทุนสุด ๆ ในชั่วโมงนี้ ด้วยงบลงทุนที่คุ้มค่าและถูกมาก ๆ
“ไก่หมุนละมุนลิ้น” ฉีกกฎเกณฑ์ความอร่อยของเมนูไก่ย่างสุดคลาสสิคที่ใคร ๆ ก็ทานได้ โดยอร่อยกว่า หอมกว่า เนื้อฉ่ำกว่า รับรองถูกปากถูกใจ แล้วคุณจะลืมไก่ย่างเจ้าอื่น ๆ ที่เคยชิมมา
“ไก่หมุนละมุนลิ้น” บริหารโดย คุณจักรกฤษณ์ แก้วอาจ เจ้าของแฟรนไชส์ไก่หมุนละมุนลิ้น ผู้ก่อตั้งแฟรนไชส์ซึ่งเปิดตัวแฟรนไชส์มาได้ไม่นาน แต่ได้รับผลตอบรับเกินคาด ปัจจุบันลุยเปิดแฟรนไชส์แบบรัว ๆ !!
สำหรับแฟรนไชส์ ไก่หมุนละมุนลิ้น ลงทุนเริ่มต้น 15,900 บาท จ่ายครั้งเดียวจบ ได้รับอุปกรณ์และวัตถุดิบเปิดร้านครบ พร้อมเริ่มต้นกิจการได้ทันที โดยสิทธิประโยชน์จากการลงทุนแฟรนไชส์
ช่องทางการติดต่อ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077189065583
ไม่มีการลงทุนแฟรนไชส์อะไรจะคุ้มค่าและราคาถูกขนาดนี้อีกแล้ว สำหรับแบรนด์ “ซาวแซ่บ” แฟรนไชส์ร้านอาหารประเภทยำ, ส้มตำ, ข้าว, ของทอด และเมนูฟิวชั่นสารพัดความอร่อยอีกกว่า 50 เมนูในร้าน ที่เสิร์ฟโดยจัดใส่ถาดคอนโด สร้างความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และขายในราคาเริ่มต้น อิ่มแซ่บซี้ดนัวคัก ๆ เมนูละ 20 บาทเท่านั้น
“ซาวแซ่บ” ขยายแฟรนไชส์ไปแล้วทั่วประเทศกว่า 72 สาขา บริหารโดย คุณโม – อัญพิมพิดา ภูวิชญาพิมุกข์ สุภาพสตรีที่เคยทำงานในแวดวงอีเว้นท์ งานพิธีกรต่าง ๆ แต่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้งานที่ทำอยู่ลดน้อยถอยลง
คุณโม จึงเปลี่ยนวิกฤตเป็นกาส โดยมองหาจาก Passion ของตัวเอง ด้วยการผันตัวเองมาจับธุรกิจขายอาหาร คือ ร้านยำ เนื่องจากเป็นคนชอบทำอาหารให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ ทาน ซึ่งต่างก็ชื่นชอบชื่นชมในรสชาติที่แซ่บนัวถึงรสถึงเครื่อง จึงจุดประกายให้ลงตลาดนัดขายครั้งแรกย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
โดยลงขายตลาดนัดครั้งแรกย่านรังสิต ได้ไม่ถึงสัปดาห์ ผลตอบรับดีเกินคาดมีลูกค้าต่อแถวอุดหนุนสั่งซื้อไม่เว้นแต่ละวัน และมีเสียงร้องขอติดต่อซื้อแฟรนไชส์ไปขายบ้าง
ช่องทางการติดต่อ : https://www.facebook.com/soundzaab/
เริ่มต้นง่าย ๆ กับ “ไผ่ทองไอสครีม” เชิญคุณมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จและการเติบโตไปอีกขั้นกับแบรนด์ไอศกรีมในตำนานที่เสิร์ฟความอร่อยและอยู่คู่คนไทยมากว่า 70 ปี จากภาพลักษณ์ของ “ไผ่ทองคลาสสิค” รูปแบบรถเข็นเร่ขายที่เติบโตมาพร้อมกับลูกค้าตั้งแต่ยุค 80s ยุค 90s จนถึงปัจจุบัน
วันนี้ “ไผ่ทองคลาสสิค” ได้ปรับโฉมใหม่และ Expand แบรนด์และรูปแบบการทำธุรกิจ สู่ความเป็นสากลและทันสมัยมากยิ่งขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย วิถีชีวิต และพฤติกรรมของผู้บริโภคของคนยุคนี้
ด้วยการเปิดตัว “ไผ่ทองดรอปชิป” โมเดลการทำธุรกิจที่ตอบโจทย์สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากขายไอศกรีม แต่ไม่อยากลงทุนซื้ออุปกรณ์ วัตถุดิบ และไม่อยากเหนื่อย เพียงแค่ “ใช้ความสามารถของคุณเอง” ในการหาออร์เดอร์และปิดการขายกับลูกค้า จากนั้นจัดส่งข้อมูลรายละเอียดมาให้กับทางแบรนด์ ซึ่งจะเป็น Back Up เหมือนพี่เลี้ยงคอยรับช่วงต่อ และทำหน้าที่จัดส่งไอศกรีมถึงมือปลายทางผู้รับเอง
สำหรับ “ไผ่ทอง” ภายใต้โมเดล Dropship หรือ Fulfillment นี้ เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจร่วมลงทุนได้แล้ววันนี้ โดยมีค่าสมัครสมาชิก เริ่มต้นเพียงรายละ 1,490 บาท เท่านั้น
ช่องทางการติดต่อเปิดแฟรนไชส์ : https://www.facebook.com/PaithongIcecream
ของอร่อย ๆ รอบรั้วมหาวิทยาลัย เชื่อว่ามีอยู่ทุกสถานที่ และบางที่ได้กลายเป็นตำนานเล่าขานจากศิษย์เก่ารุ่นสู่รุ่น และได้รับการพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นแบรนด์อาหารที่มีชื่อเสียงระดับประเทศได้
เช่นเดียวกับแบรนด์ Gaiiwow - ไก่ว่าว ธุรกิจอาหารน้องใหม่ที่มาแรงแบบสุด ๆ แม้แต่วิกฤตโควิดฯ ก็ยังฉุดไม่อยู่ เพราะปัจจุบันมีออร์เดอร์ออนไลน์สั่งแบบถล่มทลายสุด ๆ มากแม่ !!
Gaiiwow – ไก่ว่าว ธุรกิจอาหารรูปแบบไก่ปิ้งเสียบไม้ สตรีทฟู้ดของทานเล่น ที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ดูภายนอกก็แสนจะธรรมดา จนหลายคนคิดว่า จะอะไรกันนักกันหนา ก็แค่ไก่ปิ้งเสียบไม้ แค่นั้น..!?
จริง ๆ แล้วก็คงไม่ผิดที่ว่า ไก่ปิ้งเสียบไม้แค่นั้น แต่หากเพื่อน ๆ ได้รู้จักแบรนด์ Gaiiwow – ไก่ว่าว ตลอดจนได้รู้จักกับผู้บริหารและวิสัยทัศน์ของการก่อตั้งแบรนด์ไก่ว่าวจริง ๆ แล้วก็จะรู้ได้เลยว่า ทำไม ? ไก่ว่าว ถึงเล่นใหญ่ !! และไม่ใช่ไก่ปิ้งเสียบไม้ทั่ว ๆ ไปอย่างแน่นอน
ไก่ว่าว ปัจจุบันเป็นเมนูอาหารฮอตฮิตติดเทรนด์ เสิร์ฟความอร่อยอยู่บนโลกออนไลน์ ในทุก ๆ แอปพลิเคชันรับ / ส่งอาหารชั้นนำของประเทศ ซึ่งบริหารโดย คุณเพิร์ธ-พชร วุฑฒิชาติ CEO of Gaiiwow Domestic และ คุณเบนซ์-พัสกร มงคลยศวัฒน์ Founder of Gaiiwow Domestic
รวมถึงทีมงานคุณภาพซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ต้องการยกระดับอาหารสตรีทฟู้ดไทยให้พรีเมียม ทั้งในเรื่องของรสชาติ แพ็กเกจจิ้ง รวมถึงมาตรฐานกระบวนการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย ได้คุณภาพ ซึ่งต้องคุ้มค่าสำหรับผู้บริโภค ในราคาที่คนกินทุกกลุ่มเข้าถึงและจับต้องได้อย่างแท้จริงด้วย
อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่า ไก่ว่าว เป็นอาหารสตรีทฟู้ดในตำนานริมรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งบอกได้เลยว่า ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ คงไม่มีใครไม่รู้จัก โดยที่ถือกำเนิดมาจาก ร้านป้าขายไก่ปิ้งริมรั้ว ม.ธรรมศาสตร์ วิทยาเขตรังสิต บนถนนเชียงราก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นเพียงร้านเล็ก ๆ มีป้ากับลุงขายเสียบไม้ปกติทั่วไป โดยจะมาตั้งร้านแต่เช้ามืด เสียบไก่และปิ้งขายให้กับกลุ่มนักศึกษาตั้งแต่เช้ามืดจนถึงช่วงสาย ๆ หมดเกลี้ยง ! ทุกวัน ใครมาช้าคือหมดสิทธิ์ ต้องรอกินในเช้าวันถัดไป
ช่องทางการติดต่อเปิดแฟรนไชส์ : https://www.facebook.com/gaiiwow/
“กิน เต็ก กัน” ปัจจุบัน ขยายสาขาแฟรนไชส์ไปแล้วในหลาย ๆ จังหวัดกว่า 57 สาขาแฟรนไชส์ (ข้อมูลอัปเดต เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2565)
โดยมีร้านต้นแบบที่ปัจจุบันเปิดให้บริการต้อนรับ ‘สายเนื้อ’ และผู้ที่ชื่นชอบทานสเต๊กทุกคนในพื้นที่ จ.พะเยา บริหารโดย คุณกิ๊บ – ฐิติรัตน์ กาดใจเข็ม ผู้ก่อตั้งแบรนด์ “กิน เต็ก กัน แฟรนไชส์สเต็ก”
โดยแบรนด์ดังกล่าวได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น จากทั้งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาทานที่ร้าน มียอดขายเฉียดหลักหมื่นบาทต่อวัน โดยเปิดร้านขายไม่กี่ชั่วโมงในช่วงเย็นถึงกลางคืน
และยังได้รับความสนใจผ่านสื่อออนไลน์จากการติดตามของกลุ่มผู้ที่เข้าชมผ่าน Page Facebook ของทางร้านอย่างอุ่นหนาฝาคั่งอีกด้วย โดยเฉพาะมีผู้ติดตามหลายรายที่ต้องการลงทุนซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดขายในพื้นที่หรือในจังหวัดที่ตนเองพักอาศัยอยู่
ปัจจุบัน “กิน เต็ก กัน แฟรนไชส์” มีรูปแบบการลงทุน 2 ชุดหลัก ๆ ได้แก่
ช่องทางการติดต่อเปิดแฟรนไชส์ : https://www.facebook.com/kinteakkan/
ร้านก๋วยเตี๋ยว มักจะมีเมนูลูกชิ้นปิ้งขายให้กับผู้บริโภค , ข้าวหมูแดงเราก็มักเห็นขายคู่กับข้าวหมูกรอบมาช้านาน หรือแม้แต่ผัดไทยก็ยังเปิดขายคู่กับหอยทอด แล้วไฉนเลย ‘สุกี้’ ทำไม ? จะเปิดขายคู่กับเมนู ‘ยำ’ ไม่ได้ล่ะ !?
เกริ่นมาขนาดนี้ ใช่แล้วล่ะ เถ้าแก่คาเฟ่ จะขอพาแฟน ๆ ไปรู้จักกับแฟรนไชส์ร้านอาหารแบรนด์หนึ่ง ที่มีความน่าสนใจและน่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง โดยเมนูเด่นประจำร้าน คือกลุ่มอาหารประเภท ‘สุกี้ และ ยำ’
ทั้งนี้ หากจะเอ่ยถึงแบรนด์ร้านอาหารที่มีเมนูสุกี้ขายพร้อมกับเมนูยำ, ส้มตำ แทบจะมีน้อยมาก ซึ่งจริง ๆ แล้วเจ้าของร้านสามารถเปิดขายคู่กันได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค แถมยังเพิ่มยอดขายได้เยอะมาก ๆ อีกด้วย
โดยที่นึกออกในปัจจุบันที่ทำตลาดอย่างจริงจังในรูปแบบแฟรนไชส์ ต้องยกให้แบรนด์ ‘สุกี้นายพัน’ (SUKINAIPHAN) แฟรนไชส์ นี้แหละ ที่บริหารโดย คุณอำพัน พงศ์พันธ์ (เฮียพัน) ที่เปิดขายมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี ซึ่งมีร้านต้นแบบอยู่ตรงข้าม ม.หอการค้าไทย (ซ.วิภาวดีรังสิต 2 ตรงข้ามกับทางเข้ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400)
ช่องทางการติดต่อเปิดแฟรนไชส์ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100048617366146